พระวินัยปืฎก จูฬวรรค [10. ภิกขุนี ขันธกะ] 1.ปฐมภาณวาร
สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายกำลังระงับอธิกรณ์ของภิกษุณีทั้งหลาย เมื่อภิกษุทั้งหลาย
กำลังวินิจฉัยอธิกรณ์อยู่ ปรากฏมีภิกษุณีทั้งหลายที่เข้ากรรม1บ้าง ต้องอาบัติบ้าง
ภิกษุณีทั้งหลายกล่าวอย่างนี้ว่า ดีแล้วท่านผู้เจริญ ขอพระคุณเจ้าทั้งหลายจงทำกรรม
แก่ภิกษุณีทั้งหลาย ขอพระคุณเจ้าทั้งหลายจงรับอาบัติของภิกษุณีทั้งหลาย เพราะ
พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติไว้ว่า ภิกษุทั้งหลายพึงระงับอธิกรณ์ของภิกษุณีทั้งหลาย
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ภิกษุทั้งหลายมอบการ
ลงโทษภิกษุณีทั้งหลายให้แก่ภิกษุณีทั้งหลาย เพื่อให้ภิกษุณีทั้งหลายลงโทษภิกษุณี
ทั้งหลายกันเอง ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ภิกษุทั้งหลายมอบการปลงอาบัติของ
ภิกษุณีทั้งหลายให้แก่ภิกษุณีทั้งหลาย เพื่อให้ภิกษุณีทั้งหลายรับอาบัติกับภิกษุณี
ทั้งหลายด้วยกัน
สมัยนั้น ภิกษุณีอันเตวาสินีของภิกษุณีอุบลวรรณา ติดตามพระผู้มีพระภาค
เรียนพระวินัยอยู่ 7 ปี นางกลับมีสติฟั่นเฟือน พระวินัยที่เรียนไว้ก็เลอะเลือน นาง
ทราบว่า พระผู้มีพระภาคประสงค์จะเสด็จไปกรุงสาวัตถี จึงคิดว่า เราติดตาม
พระผู้มีพระภาค เรียนพระวินัยอยู่ 7 ปี จนสติฟั่นเฟือน พระวินัยที่เคยเรียนไว้ ก็
เลอะเลือน การที่มาตุคามจะติดตามพระผู้มีพระภาคไปจนตลอดชีวิตเป็นเรื่องยาก เรา
จะพึงปฏิบัติอย่างไรเล่า จึงบอกเรื่องนั้นให้ภิกษุณีทั้งหลายทราบ
ภิกษุณีทั้งหลายจึงบอกความนั้นแก่ภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ภิกษุทั้งหลายสอนวินัย
แก่ภิกษุณีทั้งหลายได้
ปฐมภาณวาร จบ
เชิงอรรถ :
1 ผู้เข้ากรรม ในที่นี้ หมายถึงผู้ควรแก่กรรมคือควรถูกลงโทษ (กมฺมปฺปตฺตาโยปีติ กมฺมารหาปิ-สารตฺถ 3/
530